วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog)

เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog)
มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง กล้าหาญ ซื่อสัตย์ ตื่นตัว ฉลาด เป็นมิตร


ลักษณะทั่วไป

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกเป็นหนึ่งในกลุ่มสายพันธ์สวิสส์  เมาน์เทนด็อก  แต่เป็นพันธุ์เดียวเท่านั้นที่มีขนยาวสลวยราวแพรไหม เติบโตในสภาพอากาศหนาวเย็น  ฉลาดหลักแหลม ร่างกายแข็งแรงและแข็งแกร่งสามารถทำงานหนักและทำงานได้ดีบนภูเขา ซึ่งเป็นถิ่นต้นกำเนิดของเขานั่นเอง เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่โครงสร้างแข็งแรง มีขนสีดำ สีสนิมและสีขาวอยู่บนตัว และมีความโดดเด่นเฉพาะตัว  เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกตัวผู้จะดูแข็งแกร่งทะมัดทะแมง  ในขณะที่ตัวเมียจะดูแจ่มใสร่าเริง อายุโดยเฉลี่ย 14 ปี

 ความเป็นมา

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงก่อนคริสตวรรษที่ 17  ซึ่งชื่อสายพันธุ์ได้รับการตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เขตการปกครองแห่งเบิร์น  จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าว ด้วยลักษณะรูปร่างที่ใหญ่ มั่คง แขงแรง สุขุม มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ทำให้พวกเขาถูกเลือกนำไปใช้ในการทำงาน เพื่อการขนส่ง หรืองานดูแลฟาร์ม พื้นที่การเพาะปลูก อีกทั้งยังเป็นมิตรที่ดีเยี่ยมกับชาวไร่ชาวนา ด้วยเหตุนี้เองจุดประสงค์หลักของการเลี้ยง เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกแรกเริ่มเดิมทีจึงเลี้ยงไว้เพื่อเป็นสุนัขในฟาร์ม

ลักษณะนิสัย

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง กล้าหาญ ซื่อสัตย์  ตื่นตัว ฉลาด เป็นมิตร อ่อนโยน  ใจดีมีเมตตาเข้ากับสัตว์อื่นๆได้ง่าย  ไม่ก้าวร้าวหรือขี้อาย ยืนตั้งตัวตรงสง่าแม้จะพบเจอคนแปลกหน้าก็ตาม  แต่ง่ายที่จะถูกยั่วยุจากสัตว์หรือวัตถุขนาดเล็กที่เคลื่อนไหวไปมา เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกชอบอยู่และเป็นส่วนหนึ่งกับคนในครอบครัว ต้องการความรักและความอบอุ่นมากๆ


 การดูแล

     การออกกำลังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  เพราะพวกเขาสืบเชื้อสายสุนัขฟาร์มมาแต่กำเนิด อย่างไรก็ตามการฝึกฝนวินัยก็จำเป็นมากเช่นกัน โดยวิธีการออกกำลังการที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา คือการพาเดินช้าๆระยะทางยาวๆ รอบเมืองหรือในสวนสาธารณะ นอกจากนี้ เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก ยังรักและต้องการเวลาอยู่กับคนในครอบครัว พวกเขาจะมีความสุขมากๆถ้าได้อยู่ใกล้และมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ในส่วนการดูแลความสะอาด เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  มีแนวโน้มว่าจะพลัดขนบ่อยเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนให้เขาอย่างสม่ำเสมอ 


 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้ที่สนใจเลี้ยงเบอร์นีส เมาน์เทนด็อก  จำเป็นต้องมีเวลาให้พวกเขาค่อนข้างสูง ทั้งการพาออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ สภาพขน และ เวลาที่จะอยู่เป็นเพื่อนกับเขาอย่างใกล้ชิด
 ความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้


 มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด ตามมาตราฐานแล้วเพศผู้ มีส่วนสูงโดยประมาณ 25-27 .5 นิ้วครึ่งน้ำหนักตัว 38-50 ก.ก. เพศเมียมีส่วนสูงโดยประมาณ  23-27 น้ำหนักตัว 36-48 ก.ก. มีลักษณะรูปทรงเป็นสี่เหลี่ยม อัตราส่วนความกว้างของลำตัวยาวกว่าส่วนสูง  โครงสร้างกระดูกแข็งแรงมั่นคง  ร่างกายกำยำ

ศรีษะ รูปกระโหลกบนสุดแบนและกว้าง มีร่องบนหน้าผากเล็กน้อยตรงบริเวณ ตำแหน่งสัน
จมูกระหว่างตาทั้ง 2 ข้างชัดเจนแต่ต้องไม่ลึกจนเกินไป

ฟัน มีลักษณะเป็นฟันกรรไกร คือ ด้านในฟันบนสัมผัสกับด้านนอกของฟันล่าง แต่ถ้าฟันเกยกันสูงหรือต่ำเกินไปถือว่าไม่ได้มาตรฐาน

ปาก ริมฝีปากสะอาดและแห้ง

ตา ดวงตารูปไข่เล็กน้อย นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มใน  แต่ ถ้านัยน์ตาสีฟ้าถือว่าไม่ได้มาตราฐาน มีหนังตาที่พอเหมาะพอดี ไม่พลิกกลับนอกหรือ

หู มีขนาดปานกลาง โคนหางยกสูง รูปทรงหูเป็นรูปทรงสามเหลี่ยม ปลายหูบนสุดโค้งมนเล็กน้อย  ส่วนที่ยกสูงที่สุดของหูจะตั้งอยู่เหนือกระ

จมูก ต้องดำทั้งจมูก

คอ ควรยาวพอประมาณ ลำคอควรตั้งบนหัวไหล่ แลดูมั่นคงกล้ามเนื้อแลเห็นเด่นชัด ขนบริเวณรอบคอห้ามมีการตกแต่ง

อก อกลึกกว้างแต่ไม่ใหญ่เทอะทะ อย่างน้อยที่สุดช่วงอกควรทิ้งต่ำได้เพียงแค่บริเวณข้อเข่า

ลำตัว ช่วงลำตัวกว้างหนาและรายเรียบไปจนถึงโคนหาง ไหล่เอนไปข้างหลังเล็กน้อย กล้ามเนื้อแน่นมีพละกำลัง แผ่นหลังกว้างแน่นกระชับ

เอว -

ขาหน้า ขาตรงและแข็งแรง เวลายืนช่วงข้อขาต้องอยู่ใต้หัวไหล่พอดี เท้ากลม กระชับ นิ้วเท้าโค้งมนได้รูป

ขาหลัง บริเวณหน้าแข้งหนา แข็งแรง มีกล้ามเนื้อ ช่วงต้นขาโค้งได้รูปไปจนถึงข้อเท้า รูปทรงของข้อเท้าต้องทิ้งลงเป็นเส้นตรง

หาง มีลักษณะเป็นพุ่ม ทิ้งต่ำต่ำลงบริเวณช่วงข้อเท้า  กระดูกหางควรตรงไม่โค้งขดงอขึ้นมาอยู่บนหลัง

ขน ขนหนาเส้นยาวเงางามเป็นลอนคลื่นเล็กน้อยหรือเป็นขนเส้นตรงก็ได้  ถ้าหยิกมากถือว่าไม่ได้มาตรฐาน

สีขน มีขา 3 สี คือ สีดำ สีสนิม (น้ำตาลแดง) และสีขาว ซึ่งปกติสีพื้นจะเป็นสีดำ แซมด้วยคนสีสนิมและสีขาว ซึ่งสีที่แซมอยู่บนตัวควรมีสัดส่วนพอดีตามมาตราฐานทั่วไป คือสีสนิมควรแต้มบริเวณเหมือนดวงตา  ข้างแกม 2 มุมปาก อก ขาและใต้หาง ส่วนสีขาวแต้มอยู่บริเวณ บนกลางใบหน้าระหว่างตาทั้ง 2 ข้าง แผงอกยาวไปถึงใต้ท้อง ปลายหาง  และปลายเท้าทั้ง 4 ข้าง


ข้อควรจำ

     เบอร์นีส เมาน์เทนด็อกมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกบริเวณสะโพกและข้อขา นอกจากนี้สิ่งที่ผู้เลี้ยงจะต้องระวังก็คือ ถึงแม้เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก จะไม่ได้มีสัญชาตญาณนักล่ามาแต่กำเนิด แต่บ่อยครั้งที่พวกเขาวิ่งไล่กัดสัตว์หรือสิ่งทีชีวิตตัวเล็กๆ และบางตัวก็มีแนวโน้มจะเป็นนักขุด เรื่องการฝึกวินัยจึงจำเป็นสำหรับพวกเขา  

เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard )

เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard )
ตัวใหญ่ใจดี มีพละกำลังเยอะ ช่วยกู้ภัยได้



ลักษณะทั่วไป

     สุนัขที่มีขนาดตัวใหญ่ที่สุดในโลก หน้าตาซึม ๆ คล้ายดูจะอึดอาด ต้องยกให้กับพันธุ์นี้เลย “เซนต์เบอร์นาร์ด” หน้าของมันจะมีเหมือนหน้ากากขนสีดำปกคลุมไว้ จึงทำให้ดูน่าเกรงขาม จะว่าไปเจ้าเซนต์นั้นก็เป็นสุนัขที่มีพละกำลังอยู่มาก มากพอที่จะลากคนได้ตัวปริวเลยทีเดียวล่ะ ยังไม่แค่นั้นเจ้าเซนต์ยังมีรูปร่างสูง ใหญ่ กำยำ มีกล้ามเป็นมัดๆ โดยเฉพาะบริเวณขาและแขน ที่เกิดจาการออกกำลังกายการฝึกฝนอยู่เสมอ หากอยู่ในท่ายืนตัวจะสูงกว่าหรือเท่าคนเลยนะจะบอกให้ จัดอยู่ในกลุ่ม Working Group หรือ สุนัขที่มีประโยชน์ในการกู้ภัย เฝ้าบ้านและงานด้านตำรวจ



 ความเป็นมา

     ประวัติของยังไม่เป็นที่แน่ชัดในต้นกำเนิดที่แท้จริงใน 700 ปีก่อนคริสตกาล แต่เจ้าเซนต์เบอร์นาร์ดนี้มีความเป็นมาที่ยาวนานมากๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1660 – 1670 นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบันระยะเวลาประมาณได้กว่า 1,000 ปี ถิ่นกำเนิดของเซนต์เบอร์นาร์ด คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ดที่ปกคลุมด้วยหิมะ แห่งเทือกเขาแอลป์(Alps) เป็นสุนัขภูเขาที่มีไว้รักษาความปลอดภัยให้กับพระและช่วยเหลือ กู้ภัยชีวิตมนุษย์ เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1048

     นักบวชชาวคริสต์ศาสนา ชื่อว่า เบอร์นาร์ดได้ไปยังบริเวณช่องภูเขาเซนต์เบอร์นาร์ด เพื่อทำการขับไล่พวกโจรชาวฮังการีและซาราเซที่มักจะปล้น และฆ่าคนเดินทางหรือยึดตัวไว้เพื่อเรียกค่าไถ่ให้ออกจากบริเวณนั้น เพื่อให้เกิดความสงบสุขและปลอดภัยต่อนักเดินทาง ซึ่งนักบุญเบอร์นาร์ดและเหล่าฤษีได้สร้างสถานที่พำนักไว้ช่วยเหลือ เหล่านักเดินทางถึงแม้จะกำจัดโจรได้อย่าง เส้นทางของช่องเขาเซนต์เบอร์นาร์ดก็เต็มไปด้วยอันตรายกับการเดินทางด้วยเท้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอากาศเหน็บหนาว ทั้งพายุหิมะหรือหิมะถล่มที่เป็นอันตรายต่อผู้เดินทางสัญจรไปมา หลายครั้งที่มีคนติดอยู่ใต้หิมะที่ถล่มลงมา เมื่อเป็นอย่างนี้นักบุญเบอร์ดนาร์ดได้นำสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ด มาฝึกฝนในการเพื่อช่วยเหลืองานผู้ประสบภัย จมูกของมันนั้นไวและสามารถดมกลิ่นหาผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ภายใต้หิมะได้เหลายๆฟุต

     โดยทุกครั้งที่จะออกไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่คอของมันจะมีถังไม้เล็กๆ ที่บรรจุเหล้าองุ่นหรือยาให้ผู้ประสบภัยเปิดกินและใช้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเซนต์เบอร์นาร์ด บางตัวอาจมีผ้าห่มผูกติดหลังเอาไว้เพื่อให้ผู้ประสบภัยห่มกันหนาวด้วย จึงได้รับสมญานามว่าเป็น “หมานักบุญ(SAINT)” ต่อมาได้มีการนำเซนต์เบอร์นาร์ดเข้าสู่เมืองและมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้แข็งแรงมากขึ้น พร้อมทั้งได้รับการยอมรับและยกย่องว่า เป็นสุนัขเซนต์เบอร์นาร์ดนั้นเป็นสายพันธุ์แท้ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้รับการประกาศให้เป็นสุนัขประจำชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้นมา



 ลักษณะนิสัย

     เป็นสุนัขที่ใจดีที่สุดในบรรดาเหล่าสุนัขทั้งหลาย(โดยเฉพาะกับเด็กๆ) ฉลาด ไม่ก้าวร้าวและขี้กลัว เป็นมิตรกับคน ถ้าคนไหนไม่รู้จักก็จะต้องแนะนำให้รู้จักก่อนนะ เพื่อมันจะได้ไม่ระแวงคนๆนั้น จริงๆแล้วมันจะได้โชว์ความน่ารักของมันต่างหากล่ะ บางตัวก็จะมีนิสัยเงียบขรึม บางตัวก็จะมีนิสัยร่าเริง บางครั้งอาจร่าเริงเกินเหตุจนอยู่ไม่เป็นสุขอีกด้วย แต่เจ้าเซนต์นี้มันเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนเอาการเลยนะ เพราะรูปร่างลักษณะของตัวมันทำให้ต้องมีการระบายความร้อนอยู่เสมอ แต่ถึงจะขี้ร้อนก็เถอะเจ้าเซนต์ยังชอบฝึกฝนและออกกำลังกายอีกด้วย

การดูแล

     อาหารที่ใช้สำหรับเลี้ยง ควรคำนึงถึงสารอาหารไม่ควรเน้นโปรตีนอย่างเดียว ในตอนที่ยังเป็นลูกสุขัขอายุ 4 เดือนควรให้อาหารวันละ 4 ครั้ง เมื่ออายุ 5 เดือนจนถึง 1 ปีลดเหลือ 2 ครั้ง ต่อจากนั้นขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เลี้ยงในการให้อาหาร อาจลดเหลือ 1 ครั้งต่อวันก็เป็นได้ นอกจากนี้ควรให้น้ำดื่มที่สะอาดด้วย จะต้องมีการเปลี่ยนตลอดเวลาเพราะจะช่วยระบายความร้อนให้กับสุนัข





     ในเรื่องของการทำความสะอาด ควรดูแลอย่างประจำ ไม่ควรใช้น้ำที่เย็นมากเกินไป ในการอาบน้ำ สำหรับสุนัข ควรอาบน้ำ ให้เขาในช่วงกลางวันขณะที่น้ำและอากาศไม่เย็นมาก หลังจากอาบเสร็จ ให้เช็ดตัวสุนัขให้แห้ง และแปลงขนเพื่อกำจัดขนที่หมดอายุ เห็บ หมัดและทำให้ขนดูมีระเบียบเรียบร้อย

     ส่วนเรื่องของสุขภาพ ควรหมั่นคอยดูแลรักษาน้ำหนักในช่วงที่ยังเป็นลูกสุนัขเพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มมากเกินไป เพราะจะเพิ่มแรงกดและเป็นภาระต่อกระดกและข้อต่อที่กำลังเจริญเติบโต ที่สำคัญหากเลี้ยงในบริเวณบ้านควรมีรั้วสูงอย่างน้อย 2 เมตร เพื่อกันไม่ให้สุนัขหนีเที่ยว และวครจะให้สุนัขออกกำลังกายอย่างมีขอบเขต สม่ำเสมอ ไม่ควรหักโหมมากเกินไป เพราะ กระดูกของสุนัขแต่ละวัยจะรับน้ำหนัก แรงกดได้ไม่เหมือนกัน ต้องค่อยๆ ฝึกออกกำลังกายไปตามลำดับ เมื่อสุนัขเติบโตเต็มวัยควรออกกำลังกายแค่พอประมาณเท่านั้น





 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ไม่ว่าจะผู้อยู่คนเดียว หรือครอบครัวก็สามารถเลี้ย'ได้ เซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีการดูแลเป็นอย่างมาก จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ผู้เลี้ยงที่เหมาะสมก็จะต้องมีเวลาในการดูแล และมีกำลังทรัพย์พอต่อการเลี้ยง
 ความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้


มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด ตัวผู้สูงอย่างน้อย 27 นิ้ว ตัวเมียสูงอย่างน้อย 25 นิ้ว ตัวเมียจะมีโครงสร้างที่สวยและดูอ่อนช้อยกว่า

ศรีษะ เซนต์เบอร์นาร์ดมีศีรษะที่ใหญ่โต กว้าง และ มีความแข่งแกร่งมาเลยทีเดียว กระดูกแก้มอยู่สูง มีสันกระดูกเหนือตาชัดเจน ผิวหนังที่หน้าผากมีรอยย่นลงมาเห็นได้ชัด

ฟัน จมูกจะใหญ่ มีรูจมูกที่เปิดกว้างและมีสีดำเหมือนริมฝีปาก ควรดูมันเงาตลอดเวลา

ปาก ริมฝีปากมีสีดำ ไม่บางและหนาเกินไป ริมฝีปากล่างต้องไม่ห้อยมากไป

ตา ตั้งอยู่ด้านหน้าระหว่างจมูก ขนาดปานกลาง สีน้ำตาลเข้ม แววตาฉลาดและเป็นมิตร

หู มีขนาดปานกลาง จะอยู่สูงจากบริเวณฐาน ห่างจากศีรษะเล็กน้อย แล้วพับงอลงมาด้านข้างแนบกับศีรษะ ใบหูนิ่มมีลักษณะสามเหลี่ยมปลายมนยาวออกไปเล็กน้อยทางด้านปลาย        
จมูก สีดำ รูจมูกกว้าง

คอ ชูตั้งสูงและตั้งตรง บริเวณต้นคอมีมัดกล้ามเนื้อมากและด้านข้างมีความกลม ทำให้เห็นการเชื่อมต่อของคอและหัวชัดเจน ดูเหมือนลำคอสั้น  

อก ความโค้งสูงมาก ลึกพอประมาณ ไม่ยื่นลงไปต่ำกว่าข้อศอก

ลำตัว ลำตัวหน้าใหญ่ มีรูปทรงสี่เหลี่ยม ช่วงซี่โครงอกกว้าง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

เอว -

ขาหน้า มีพละกำลังและมีกล้ามเนื้อ เหยียดตรงและแข็งแรง

ขาหลัง ทำมุมพอประมาณ ไม่ควรมีนิ้วติ่งส่วนเกิน

หาง ใหญ่และยาว มีน้ำหนัก จะอยู่ในลักษณะปลายงอน คล้ายรูปตัว f

ขน ดก หนาแน่น ราบเรียบ มีความยาวพอประมาณ มีขนหยิกเล็กน้อย บริเวณต้นขาขนจะไม่แน่นมาก ที่โคนหางขนจะยาวและแน่นกว่าบริเวณปลายหาง ที่หางขนจะแน่นและหางไม่เป็นรูปธง ควรจะมีส่วนโค้งรับกับลำตัว

สีขน ขาวมีแดงแซม หรือ แดงแซมขาว สีแดงก็จะมีหลายเฉดสี สีแดงอมน้ำตาลมีขาวแต้ม สีแดงและเหลืองน้ำตาลมีปริมาณเท่าๆกัน รอยแต้มที่สำคัญ คือ ที่อก เท้าและปลายหาง รอบจมูก รอบๆ คอ เป็นสีขาว สีสันจัดจ้าน ต้องไม่มีแค่สีเดียวหรือไม่มีสีขาว ข้อบกพร่องคือ สีอื่นๆนอกเหนือจากนี้ ยกเว้นเชดสีเข้มบนศีรษะ(หน้ากาก) และหู



 ข้อควรจำ

     สุนัขพันธุ์นี้ลักษณะรูปร่างใหญ่ มีสิทธิ์ที่จะเป็นโรคต่างๆได้ง่าย จึงต้องใส่ใจต่อการดูแลอย่างมาก เพื่อไม่ให้ลดเวลาการใช้ชีวิตของมันสั้นลง และที่สำคัญมั่นตรวจสอบสุขภาพมันอยู่เสมอ เพื่อสามารถรักษาอาการได้ตั้งแต่เนิ่นๆ

เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)

เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)
สุนัขเฝ้ายาม เป็นมิตร ไม่ก้าวร้าว


ลักษณะทั่วไป

     ตัวใหญ่ แข็งแรง กำยำ  มั่นคง ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มั่นใจ เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  เดิมเลี้ยงไว้เพื่อต้อนแกะ ทำงานบนภูเขา จึงมีกระดูกค่อนข้างใหญ่แข็งแกร่ง ขนสีดำ  มีสีสนิมแทรมสมมาตรกันระหว่างลำตัวทั้งสองด้าน และแต้มด้วยสีขาว โดยเฉพาะบริเวณอก มีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 8-12 ปี

 ความเป็นมา

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  มีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ห่างไกลในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ พวกเขาเป็นสุนัขที่เลี้ยงไว้สำหรับใช้งานในฟาร์มโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะต้อนสัตว์ เฝ้ายาม ปกป้องทรัพย์สิน  แบกหามของขึ้นภูเขาสำหรับการล่าสัตว์ และการเดินเขา จนกระทั่งปีคริสตวรรษที่ 19 เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก ถูกสันนิษฐานว่าสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากชาวไร่ชาวนาเลิกเลี้ยงมันเพราะมีเครื่องจักร เครื่องไถนาช่วยในการทำการเกษตรแทน อย่างไรก็ตามได้มีการค้นพบสายพันธุ์นี้อีกครั้งในเวลาต่อมา


 ลักษณะนิสัย

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขเฝ้ายามที่ดีเยี่ยม สามารถพิทักษ์ครอบครัวและทรัพย์สินได้ พวกเขาจะเห่าคนแปลกหน้าและผู้บุกรุก เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของได้ยิน แต่ไม่ก้าวร้าว หรือทำร้ายใคร เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่เหมาะสำหรับเป็นสัตว์เลี้ยงในครอบครัวทั้งสามารถดูแลและเป็นเพื่อนได้  พวกเขาเป็นมิตรกับเด็กๆ รักที่จะมีส่วนร่วมและอยู่รวมกับครอบครัว  ส่วนลูกสุนัขเกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก จะน่ารัก และเป็นมิตรมากเป็นพิเศษ แต่ก็ค่อนข้างซน ควบคุมยาก ชอบวิ่ง ชอบกระโดด วิ่งวุ่น วนไปวนมา แถมยังชอบ เห่าและกัดแทะสิ่งของอีกด้วย พวกเขาจะขี้เบื่อง่าย ถ้าต้องถูกทิ้งให้อยู่ตัวเดียวแล้วก็เริ่มซนทำลายข้าวของ เรียกร้องความสนใจ ควรจะฝึกวินัยตั้งแต่เด็ก แล้วด้วยสัญชาตญาณเก่าเฝ้าระวังภัยที่มีอยู่ในสายเลือด เขาจึงเห่าทุกอย่างที่แปลกปลอมทั้งคนและเสียง ดังนั้นเขาควรได้รับการฝึกเพื่อไม่ให้เห่าพร่ำเพรื่อ สอนให้เขาออกสังคม อยู่ร่วมกับสัตว์ตัวอื่นๆ พบปะคนแปลกหน้าเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าคนไหนคือคนที่ดี และคนไหนคือคนที่ไม่ดี


 การดูแล

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่พลัดขนปานกลาง แต่จะพลัดขนเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างรอยต่อของฤดูพลัดขนทั้ง 2 ฤดู ควรพลัดขนทุกๆ สัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงฤดูพลัดขน ส่วนการอาบน้ำควรอาบน้ำให้ 2-4 สัปดาห์ต่อครั้ง ควรใช้แชมพูสุนัขโดยเฉพาะ ไม่ควรใช้แชมพูคน เพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้ และควรแปรงขนก่อนอาบน้ำ เพื่อพลัดขนที่ตายแล้วให้หลุดออกไป

     สำหรับการออกกำลังกาย เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก  ต้องการการออกกำลังกายปานกลาง ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป ควรพาออกไปเดิน หรือวิ่งเล่นเป็นประจำทุกวันอย่างเพียงพอ หรือจะหากิจกรรมให้เล่น เช่น ดึงลากรถเข็น หรือลากเลื่อน เป็นต้น ยิ่งเขาได้ออกกำลังกายเขาก็จะยิ่งมีความสุขมากขึ้นๆ ยิ่งถ้าเป็นลุกสุนัขพลังงานสูง ซนไม่หยุด ควรพาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้เขาได้ปลดปล่อยพลังงาน อย่างไรก็ตาม ไม่ควรให้เขาออกกำลังอย่างหักโหม เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการฮีตสโตรกได้เมื่อเหนื่อยหรืออากาศร้อนจัดจนเกินไป เพราะโดยสายพันธุ์แล้วพวกเขาเหมาะที่จะเลี้ยงอากาศหนาว


 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก เป็นสุนัขที่ในช่วงเด็กจะขี้เบื่อง่าย พลังงานสูง ชอบกัดแทะสิ่งของ ควรฝึกวินัยอย่างเคร่งครัด พาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำ แต่หากโตเต็มวัยแล้ว การออกกำลังกายก็ไม่ควรมากเกินไปเพราะจะทำให้เกิดอาการฮีสโตรกได้ ควรสังเกตอาการขณะพาวิ่งเป็นพิเศษ ส่วนขนาดที่อยู่อาศัยพวกเขาสามารถปรับวิถีชีวิตให้เลี้ยงในอพาร์ตเม้นท์ได้ แต่ควรพาเขาไปออกกำลังกายทุกวัน และการทำความสะอาดเน้นเรื่องการแปรงขนเป็นพิเศษ ควรแปรงขนให้เป็นประจำทุกสัปดาห์
  
 ความน่ารักของสุนัขพันธุ์นี้


 มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด  เพศผู้ส่วนสูงเฉลี่ย 25 – 28  นิ้วครึ่ง1/2 - 28 1/2 inches  น้ำหนัก 105 – 140 ปอนด์ เพศเมียส่วนสูงประมาณ 23 – 27 นิ้วครึ่ง น้ำหนัก 85 – 110 ปอนด์

ศรีษะ  ศีรษะแบน มีจุดหนักระหว่างตา 2 ข้างเล็กน้อย ศีรษะด้านหลัง กับปากมีความยาวใกล้เคียงกัน  แต่ด้านหลังศีรษะมีขนาดความกว้าง กว้างกว่าความกว้างของปาก 2 เท่า ปากหนา ใหญ่ และตรง

ฟัน มีลักษณะเป็นฟันกรรไกร

ปาก ริมฝีปากสะอาด กระชับ แห้ง ไม่แฉะน้ำลาย

ตา  ดวงตาทรงแอลมอนด์ขนาดปานกลาง นัยน์ตาสีน้ำตาลหรือสีน้ำตาลเข้ม ไม่ลึก ขอบตาสีดำ

หู  ขนาดปานกลาง ตั้งตรง ทรงสามเหลี่ยม ปลายหูโค้งมน หูตกลงข้างศีรษะ  ตำแหน่งบนของใบหูอยู่ด้านบนของกระโหลกศีรษะ

จมูก สีดำทั้งจมูก
คอ ยาวปานกลาง กล้ามเนื้อเด่นชัด แข็งแรง สะอาด

อก อกกว้างลึก ซี่โครงช่วงอกขยาย ความลึกของอกอยู่ประมาณครึ่งหนึ่งของส่วนสูง

ลำตัว  ลำตัวค่อนข้างใหญ่ หนา กำยำ แต่ไม่เทอะทะ ช่วงต้นขาใหญ่ กว้าง และแข็งแรง ช่วงบั้นท้ายก่อนโคนหางกว้าง ยาว และกลมกลึงถึงปลายหาง

เอว -

ขาหน้า  ขาหน้าตรง ยาว ช่วงไหล่ยาว แบน กล้ามเนื้อแข็งแรง ลาดลงไปทางด้านหลัง เท้ากลมรับกับ โค้งนิ้วเท้ากำลังดี

ขาหลัง  ขาหลังแข็งแรง กล้ามเนื้อสวยได้รูป ต้นขากว้าง แข็งแรง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ช่วงโค้งรับหน้าขาลงไปถึงท่อนลาดลงกำลังดี ท่อนเขาที่ต่ำกว่าต้นขาเมื่อมองจากด้านหลังทิ้งลง ตั้งตรง เท้ากลามมีส่วนโค้งรับกับนิ้วเท้ากำลังดี

หาง  กระดูกหางตรง โคนหางหนา แล้วค่อยแหลมขึ้นเมื่อถึงปลายหาง ปลายยาวอยู่ช่วงข้อขา ทิ้งต่ำ แต่ถ้าตื่นเต้น ตื่นตัวก็จะโค้งขึ้นสูง แต่ไม่ถึงกับม้วนขึ้น เหนือหลัง

ขน  ขนชั้นนอกยาวประมาณ 1-2 นิ้ว ขนชั้นในหนา โดยเฉพาะช่วงคอ แต่บางตัวก็หนาทั้งตัว ถ้าไม่มีขนชั้นในถือว่าไม่ได้มาตรฐานสายพันธุ์

สีขน  ขนชั้นนอกดำ แต้มด้วยสีสนิมอย่างสมมาตรทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวา ที่เหนือดวงตา ข้างแก้ม ข้างหู หน้าอก ขาทั้ง 4 ข้าง แต่ที่ใต้หาง นอกจากนี้ยังมีสีขาวแต้มบริเวณ  กระบอกปาก ระหว่างกลางหน้าผาก  รอบคอเชื่อมมาถึงหน้าอก และ ปลายขาทั้ง 4 ข้าง ส่วนขนชั้นในควรเป็นมีเทาอ่อนไปถึงสีเทาเข้ม ไปถึงสีน้ำตาลอมส้ม


 ข้อควรจำ

     เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก มีโรคประจำสายพันธุ์คือกระดูกสะโพกเสื่อม ข้อกระดูกขาเสื่อม โรคกระเพาะกางขยายและบิดตัว ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนได้ตามปกติ เส้นเลือดอาจฉีดขาด สามารถทำให้เสียชีวิตเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังมีโรคเกี่ยวกับดวงตา และโรคลมชัก ดังนั้นควรดูแลสุขภาพของพวกเขาอย่างใกล้ชิด และพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ  


โกลเดนรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)

โกลเดนรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
หมาหน้ายิ้ม อารมณ์ดี ขี้เล่น ฉลาด ซื่อสัตย์


ลักษณะทั่วไป

     โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่มีขนาดปานกลาง ไม่เทอะทะเก้งก้างจนดูเกะกะ เป็นสุนัขที่มีนิสัยค่อนข้างจะเป็นมิตรกับทุกๆ และสุนัขที่มีความปราดเปรียวและอดทน ลีลาในการย่างก้าวหรือไหวเป็นไปด้วยความนิ่มนวล

 ความเป็นมา

     โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่พัฒนาสายพันธุ์มาจากสุนัขในกลุ่มสแปเนี่ยล ซึ่งเป็นสุนัขที่มีความเชี่ยวชาญทางน้ำเป็นพิเศษ โดยมีขนาดเล็กกว่าสุนัขพันธุ์นิวฟาวน์แลนด์ แต่มีลักษณะโครงสร้างที่คล้ายคลึงกัน สันนิษฐานว่าอาจผสมข้ามพันธุ์มาจากสุนัขพันธุ์ไอริชเซทเทอร์ และสุนัขในกลุ่มวอเตอร์สแปเนี่ยล โดยอาจมีสายเลือดของสุนัขพันธุ์บลัดฮาวน์เข้าไปเจือปนอยู่ด้วย



 ลักษณะนิสัย

     นิสัยสุภาพ น่ารัก มีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ และเสียสละรักเจ้าของได้เท่ากับสุนัขพันธุ์ โกลเด้นฯนี้ ลักษณะนิสัยสุนัขพันธุ์นี้ใจดี ชอบอยู่กับคนและสัตว์อื่น มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ค่อนข้างติดคนหรืออยากให้เจ้าของสนใจ โกลเด้นฯ เป็นสุนัขที่ฝึกง่าย มันชอบเห่าเมื่อมีคนอยู่หน้าประตูบ้าน แต่มีบ่อยครั้งที่การเห่านั้นเป็นการแสดงการทักทายมิใช่การขู่

 การดูแล

     โกลเด้นฯ เป็นสุนัขที่มีขนร่วงมาก จำเป็นจะต้องแปรงและหวีขนให้มันสัปดาห์ละหลายๆ ครั้ง เพื่อป้องกันขนพันกัน การแปรงขนบ่อยๆ จะทำให้โกลเด้นฯ ดูสวยได้ ผู้เลี้ยงควรดูแลเรื่องเห็บ หมัด การระคายเคืองที่ผิวหนัง ขณะที่ทำการแปรงขน



     โกลเด้นฯเป็นสุนัขที่ชอบสังคมและ ไม่ชอบถูกทิ้งให้อยู่ลำพังตัว อย่าปล่อยให้สุนัขออกไปนอกบ้านโดยไม่มีคนไปด้วย ผู้เลี้ยงควรพาสุนัขไปเดินเล่นไกลๆ ทุกวันหรือหาสนามโล่งๆ ให้ได้วิ่งเล่นเก็บลูกบอลหรือว่ายน้ำกับสุนัขตัวอื่น เพื่อผ่อนคลายความเครียดและเพื่อนสุขภาพที่ดี

 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ครอบครัวที่มองหาสุนัขที่เต็มไปด้วยความสุภาพและน่ารัก ต้อง โกลเด้นฯ เลยครับ  



 มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด มีความสูงประมาณ 21 - 24 นิ้ว
น้ำหนักอยู่ในช่วงระหว่าง 55 - 75 ปอนด์

ศรีษะ กะโหลกใหญ่และกว้างโค้งได้รูปสวยงาม ไม่หยักเป็นร่องลึกหรือโหนกนูนจนมีลักษณะเป็นรูปโดม หนังบริเวณใบหน้าควรจะเรียบตึง

ฟัน ต้องขบกันได้แนบสนิทเหมือนกรรไกร โดยฟันด้านหน้าแถวบนขบเกยอยู่ด้านนอก ซึ่งลักษณะของฟันสำหรับสุนัขพันธุ์โกลเด้น

ปาก ริมฝีปากดำ กระชับ มุมปากโค้งขึ้นเล็กน้อยคล้ายรอยยิ้ม

ตา ดวงตาโตปานกลาง สีน้ำตาลเข้ม เป็นประกายสดใส

หู หูควรสั้นพอประมาณ ใบหูมีลักษณะห้อยปกลงแนบกับส่วนแก้ม รูปทรงค่อนไปทางรูปสามเหลี่ยม ปลายมน

จมูก จะต้องเป็นสีดำหรือสีน้ำตาล ส่วนจะเข้มหรืออ่อนก็ขึ้นอยู่กับสีขน แต่ถ้าจมูกเป็นสีชมพูถือเป็นข้อบกพร่องร้ายแรง

คอ ควรยาวพอประมาณ ลำคอควรตั้งบนหัวไหล่ แลดูมั่นคงกล้ามเนื้อแลเห็นเด่นชัด ขนบริเวณรอบคอห้ามมีการตกแต่ง

อก อกกว้าง ลึกพอประมาณกำลังดี ไม่ดูเทอะทะมากเกินไป


ลำตัว โครงสร้างลำตัวกระชับได้สัดส่วน อกลึกและกว้าง ความกว้างของอกอย่างน้อยควรมีขนาดพอๆ กับ ฝ่ามือของผู้ชายวางทาบเสมอพอดี ส่วนความลึกของอกควรลึกเสมอข้อศอก
ขาหน้า กระดูกซี่โครงควรโค้งได้รูปแข็งแรง

เอว -

ขาหน้า ท่อนขาหนา แข็งแรง ยาว มีกล้ามเนื้อ ส่วนขาเหนือข้อศอกจะแนบกับซี่โครงอก ท่อนขาทั้ง 2 ข้างตรงขนานกัน

ขาหลัง ต้นขาใหญ่ กว้าง หนา เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ท่อนขาล่างขนานกันทั้ง 2 ข้าง

หาง ควรตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงสุดต่อจากเส้นหลัง หางมีขนาดใหญ่โดยเฉพาะบริเวณโคนหางควรจะมีกล้ามเนื้อ

ขน ขนดกแน่น สามารถปกป้องน้ำได้เป็นอย่างดี ขนมี 2 ชั้น ขนชั้นนอกจะยาวและมีลักษณะค่อนข้างแข็ง เส้นขนมีความยืดหยุ่นในตัว สำหรับขนบริเวณด้านหลังของขาและใต้ท้องจะมีลักษณะค่อนข้างอ่อนนุ่มกว่าขนตามลำตัว

สีขน สีต้องเป็นสีน้ำตาลออกทอง ส่วนจะมีสีเข้มอ่อนไม่มีปัญหา ขนตามใบหน้าและลำตัวอาจจะมีเหลือบเทาหรือขาวก็ได้ แต่ถ้าเป็นรอยแต้มด่างสีขาว หรือมีขนสีขาวขึ้นแซมถือเป็นข้อบกพร่อง



ข้อควรจำ

     โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ทั่วไปก็มีปัญหาเหมือนหลายๆ สายพันธุ์เช่นกัน สิ่งหนึ่งคือ โรคที่เกิดจาก การถ่ายทอดจากพ่อแม่ถึงลูกสุนัข, รวมถึงโรค ข้อสะโพกอักเสบ โรคตาบางอย่าง อารมณ์ที่ไม่สม่ำเสมอ ของสุนัข ควรขอคำปรึกษา จากสัตวแพทย์ หากพบปัญหาเหล่านี้ ผู้ผสมพันธุ์ที่มีชื่อเสียงจะไม่มีความลังเลที่จะให้สัตวแพทย์ช่วยตรวจเลือกลูกสุนัขก่อนการซื้อ  

เกรทเดน (Great Dane)


เกรทเดน (Great Dane)
ช่างประจบประแจง ขี้อิจฉา สอนง่าย


ลักษณะทั่วไป

     สุนัขสายพันธุ์เกรทเดนนั้น มีความสง่าผ่าเผย มัดกล้ามสมส่วนดูหน้าเกรงขาม เกรทเดนถึงแม้จะดูตัวใหญ่น่าเกรงขามแต่มันไม่มีนิสัยก้ารร้าว บางครั้งมันมักจะมีอุปนิสัยดื้อและซน เกรทเดนจัดได้ว่าเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ มีความซื่อสัตย์และมีความจงรักภักดีต่อ และที่สำคัญเกรทเดนชอบที่จะได้รับความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นเจ้าของเสมอความเป็นมา

     เกรทเดนสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ เยอรมนี สุนัขพันธุ์เกรทเดนเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ชาวเยอรมันได้พัฒนาสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อล่าหมูป่า แต่ในปัจจุบันเกรทเดนได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น




 ลักษณะนิสัย

     เกรทเดนเป็นสุนัขที่ขี้ประจบ เป็นมิตร เงียบๆ และสุภาพกับเด็กๆที่ปฏิบัติต่อมันอย่างนิ่มนวล หากมีคนมาหาจะส่งเสียงเห่าดังๆ บอกเจ้าของให้รู้ แต่ไม่ก้าวร้าวหรือกัด

  การดูแล

     เกรทเดน เป็นสุนัขขนสั้น เรียบเป็นมันเงางาม ควรแปรงขนให้สุนัขเกรทเดนทุกสัปดาห์เป็นประจำ 5-10 นาที ก็เพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นในขณะที่ขนตายกำลังร่วงขนใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนทันที ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรหาเวลาออกกำลังกายให้มันอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่ของบ้านของคุณด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย เกรทเดนเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้เกรทเดนได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด


 ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     เกรทเดนเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายมากเกินไปก่อนอายุ 12 เดือนต้องแน่ใจว่าบริเวณที่เลี้ยงควรมีรั้วรอบขอบชิด และเมื่อผู้เลี้ยงไม่อยู่บ้านต้องผูกสุนัขไว้ด้วยเพราะ เกรทเดน สามารถกระโดดข้ามรั้วได้สบายๆ ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องคอยให้ความรักความเอ็นดูสุนัขด้วยนะ






 มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด มีความสูงประมาณ 28 - 32 นิ้ว
เพศผู้ 54 - 90 กก. เพศเมีย 45 - 68 กก.

ศรีษะ ศีรษะใหญ่ แข็งแรง กว้าง บริเวณบทสุดของศีรษะนูนเล็กน้อย ส่วนกระบอกปากยาว

ฟัน ฟันสะอาด แข็งแรง มีลักษณะฟันแบบขบกรรไกร

ปาก ริมฝีปากมีสีดำ ส่วนของริมฝีปากล่างย้วยเล็กน้อย ปากด้านบนห้อยย้วยลงมาปิดปากล่าง

ตา ดวงตามีขนาดปานกลาง กลม แสดงความรู้สึกได้ดี เป็นประกาย

หู บาง ทรงสามเหลี่ยม โคนหูตั้งขึ้นแต่ส่วนบนหูพับลง นิยมตัดแต่งหูเป็นทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่วแคบให้ตั้งสูง

จมูก จมูกโต สีดำ หรือสีตามสีขน เช่น สีเทา

คอ ขอใหญ่ แข็งแรง ยาวรับกับศรีษะและช่วงอก ตั้งสูง ดูสง่า

อก อกลึก ขยาย รับกับส่วนคอ และหัวไหล่ทั้ง 2 ข้าง

ลำตัว ลำตัวเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมได้สัดส่วน ช่วงหัวไหล่ กับอกอยู่ในระดับที่ไกล่เคียงกัน ดูมั่นคง สง่างาม เส้นหลังขนานพื้น ลาดลงไปยังโคนหางอย่างพอเหมาะพอดี

เอว -

ขาหน้า ท่อนขายาว หนา มั่นคงเข็งแรง เต้มไปด้วยกล้ามเนื้อ ขาหน้าทั้ง 2 ข้างขนานกัน

ขาหลัง ต้นขาใหญ่ แข็งแรง กล้ามเนื้อแน่นได้รูป มองเห็นชัดเจนยามเคลื่อนไหว ท่อนขาส่วนล่างยาว ขนานกันทั้ง 2 ข้าง

หาง หางยาวถึงท่อนขาส่วนล่าง มีขนาดปานกลาง โคนหางหนา หางทิ้งตกลง แต่ปลายหางเรียวแหลม กระดกขึ้นเล็กน้อย

ขน ขนของเกรทเดนเป็นขนสั้น เรียบ และเงา สีของขนอาจจะเป็นสีน้ำตาลสีเทาแกมเหลือง สีน้ำเงิน และสีดำ

สีขน ดำ น้ำเงิน สีลูกวัว ลายเสือ สีฮาเลควิน



วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ดัลเมเชียน (Dalmatian)

ดัลเมเชียน (Dalmatian)
ร่าเริง กระฉับกระเฉง และตลก


ลักษณะทั่วไป

     ดัลเมเชียนเป็นสุนัขที่มีจุดโดดเด่น ตื่นตัว แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระฉับกระเฉง ไม่ขี้อาย เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขที่มีความทรหดอดทนผนวกกับการวิ่งที่ค่อนข้างเร็ว

ความเป็นมา

     เป็นสุนัขที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน มีประวัติและตำนานอันยาวนาน รูปร่างของเขาเป็นการผสมผสานระหว่าง สุนัขพันธุ์พ้อยเตอร์และสุนัขพันธุ์ฮาวนด์ที่มีใบหูเล็กและผิวหนังที่ตึงของทวีปยุโรปตะวันออก เนื่องจากมันไม่ได้ถูกใช้เป็นสุนัขดมกลิ่นหรือช่วยในการล่าสัตว์ จึงเป็นการยากที่จะรู้ถึงเทือกเถาเหล่ากอที่แน่ชัด ตามตำนานได้เล่าขานว่า เล่าขานว่ามาจากทางตอนเหนือของประเทศอินเดียเมื่อนานมาแล้ว แล้วถูกนำเข้าทวีปยุโรปตะวันออกโดยชาวยิปซี เนื่องจากพบบันทึกเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ในเมืองดัลเมเชียในยุคแรกๆ จึงมีการตั้งชื่อสุนัขพันธุ์นี้ว่าดัลเมเชียน
     ไม่ว่าจะมีต้นกำเนิดอย่างไร เจ้าที่คอยวิ่งตามม้าเทียมรถตั้งแต่ยุคกลาง เพื่อปกป้องนักท่องเที่ยวจากโจรที่ปล้นคนเดินทาง แต่ในที่สุดมันก็กลายมาเป็นเครื่องประดับของผู้รากมากดี จากภาพที่สุนัขพันธุ์นี้วิ่งไปตามถนนของกรุงลอนดอน เพื่อกันผู้คนไม่ให้ไปเกะกะเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงมีชื่อเล่นว่าสุนัขดับเพลิง ดัลเมเชียนเป็นสัตว์เลี้ยงที่สะอาด สงบเสงี่ยมและมองได้ไกล กลายเป็นสุนัขที่คอยระแวดระวังเกี่ยวกับเพลิงไหม้ เป็นสุนัขที่ไม่ค่อยเห่ายกเว้นจะมีอะไรหลงเข้ามา สุนัขพันธุ์นี้มีความอดทนอย่างเหลือเชื่อ สามารถที่จะวิ่งในความเร็วปานกลางแบบไม่มีกำหนด ความจำเป็นในการออกกำลังกายจึงมีมาก

ลักษณะนิสัย

     ร่าเริง รักสะอาด ตื่นตัว แข็งแรง เต็มไปด้วยมัดกล้าม กระฉับกระเฉง ไม่ขี้อาย เฉลียวฉลาด เป็นสุนัขที่มีความทรหดอดทนผนวกกับการวิ่งที่ค่อนข้างเร็ว ดัลเมเชียนเป็นสุนัขรักสนุกที่แม้จะติดตลกด้วย แต่ก็ยังมีความสง่างามในตัวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ประจำของสุนัขพันธุ์นี้คือ "รอยยิ้ม" ของเขาที่เราเห็นบ่อยมักจะโดนเข้าใจผิดว่าเป็นการแยกขี้ยวคำรามถ้าไม่เหลือบไปเห็นหางระริกระรี้ที่กระดิกอยางเป็นมิตรอย่ด้วยวามที่เป็นสุนัขอ่อนไหวเขาจะคอยตามติด และคอยอ้อนขอความรักจากผู้เลี้ยงเสมอ

การดูแล

     ไม่ต้องการการดูแลเรื่องความสะอาดและการตัดแต่งขนมากนัก ไม่เหมือนกับพันธุ์อื่น เนื่องจากมีที่ขนสั้นแน่น ดัลเมเชียน ต้องการการแปรงบ้างในบางครั้งเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดี ด้วยความที่เป็นสุนัขที่แข็งแรงและตื่นตัว ดังนั้นต้องคอยฝึกให้เขาเชื่อฟังคำสั่งของเราด้วย รวมทั้งต้องพาพวกเขาไปเดินเล่นเดินทุกๆ วันและต้องให้เขาอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด    


มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด สูง 56-61 ซม.

ศรีษะ มีความสมดุลกับร่างกาย มีความยาวพอสมควร ผิวหนังไม่หย่อน

ฟัน         ขาวสะอาด เป็นลักษณะแบบขบกรรไกร

ปาก     ปิดสนิท ริมฝีปากดำ แน่น กระชับ กระบอกปากยาว

ตา         อยู่ห่างกันพอประมาณ ขนาดปานกลางและมีลักษณะกลม ตาสีน้ำตาลหรือสีน้ำเงิน ตายิ่งเข้มยิ่งดี ตามักมีสีเข้มในดัลเมเชียนที่มีจุดสีดำมากกว่าในตัวที่มีจุดสีตับ

หู         ขนาดปานกลาง ฐานหูกว้างแล้วค่อยๆ สอบ ปลายหูมน หูบาง เมื่อตื่นตัวส่วนบนของหูจะ                อยู่ระดับเดียว กันกับยอดของกะโหลกศีรษะ

จมูก         สีดำในสุนัขที่มีจุดสีดำ และสีน้ำตาลในสุนัขที่มีจุดสีตับ

คอ         เส้นหลัง ลำตัว คอโค้งได้ที่ ค่อนข้างยาว ไม่มีเหนียง

อก        ลึก กว้างปานกลาง

ลำตัว ลำตัวน้องหมายาวใกล้เคียงกับส่วนสูงจากเท้าถึงหัวไหล่ ร่างกายแข็งแรงกล้ามเนื้อได้รูปกระชับ มั่นคง ซี่โครงขยายกว้าง ส่วนอกขยายกว้างไปถึงช่วงไหล่ทั้ง 2 ข้าง  และจะแคบลงท้ายลำตัวช่วงบั้นท้าย  

เอว -

ขาหน้า ทั้งเท้าหน้าและเท้าหลังกลมและกระทัดรัด มีอุ้งเท้าที่หนาและมีสปริง เล็บสีดำหรือขาวในสุนัขที่จุดสีดำ และสีน้ำตาลหรือสีขาวในสุนัขที่มีจุดสีตับ

ขาหลัง ต้นขาหนาใหญ่ เห็นกล้ามเนื้อเด่นชัดแข็งแรง ท่อนขาล่างยาวตรง มั่งคง มองจากด้านหลังจะเห็นว่าท่อนขาทั้ง 2 ข้างขนานกัน

หาง ต่อจากเส้นหลังอย่างธรรมชาติ ไม่มีการตัดหาง หางชูขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่ม้วน

ขน ละเอียด หนา สั้น เป็นมัน

สีขน แรกเกิดจะมีสีขนขาวล้วน แต่จะเกิดเป็นจุดสีดำเมื่อโตขึ้น




คอเคเซียน เชพเพิร์ด (Caucasian Shepherd)

คอเคเซียน เชพเพิร์ด (Caucasian Shepherd)
ฉลาด มีไหวพริบ กล้าหาญ ซื่อสัตย์


ลักษณะทั่วไป

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีรูปร่างสูงใหญ่ยักษ์ กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง ขนหนา มีสีดำคาดเป็นหน้ากากเสมอๆ ขนมี 2 แบบคือ แบบยาวและสั้น ซึ่งจะเป็นลักษณะขนของคอเคเซียน เชพเพิร์ด ทางสายพันธุ์จอร์เจียน และอาร์เมเนียน  คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-14 ปี


ความเป็นมา

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสายพันธุ์ที่เชื้อสายที่เก่าแก่เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์ โมโลสเซอร์ (Molosser)  เริ่มแรกพวกเขาถูกเลี้ยงไว้เพื่อปกป้องบ้านเรือน ครอบครัว ไร่นา และทรัพย์สิน นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่ถูกเอาไปพาขึ้นสังเวียนเดินโชว์ตัวตามงานต่างๆ ซึ่งคอเคเซียน เชพเพิร์ดเริ่มปรากฏตัวในงานโชว์ในปี ค.ศ. 1930 ที่ประเทศเยอรมัน อย่างไรก็ตามถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาจนปัจจุบัน ทว่าความนิยมของคอเคเซียน เชพเพิร์ด ก็ยังคงอยู่ในเขตแคว้นเดิมที่พวกเขากำเนิดมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เหมาะสม และที่สำคัญคอเคเซียน เชพเพิร์ดไม่ได้เป็นสุนัขที่มีไว้เพื่อใครก็ได้ สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยให้เขา อาจทำให้เขามีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวหรือเป็นปัญหาได้


ลักษณะนิสัย

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่ฉลาด มีไหวพริบ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่บางครั้งก็มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระ ไม่ค่อยเชื่อฟังคำสั่ง ก้าวร้าวในบางครั้ง จึงควรได้รับการฝึกอย่างเหมาะสม พาออกไปมีสังคมบ้าง ไม่ควรให้เขาอยู่แต่ในบ้านหรือพื้นที่แคบยาวนานเกินไปจนเกิดความเครียด นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสุนัขที่พลังงานต่ำ ชอบอยู่เฉยๆ แต่ก็หูไวตาไวรู้สึกไว ยิ่งถ้าครอบครัวกำลังถูกข่มขู่คุมคาม เขาก็จะลุกขึ้นมาปกป้องทันที


การดูแล

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดมีขน  2 ชนิดคือ ขนสั้นและ ขนยาว หากเป็นชนิดขนยาวควรได้รับการแปรงขนเป็นประจำเพื่อป้องกันขนพันกัน  ส่วนขนสั้นอาจดูแลน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องแปรงเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน

     สำหรับการออกกำลังกายควรพาพวกเขาออกไปวิ่งหรือเดินเล่นเป็นประจำทุกวัน ให้เขาได้ใช้พลังงาน สร้างความกระตือรือร้น พวกเขาจะมีความสุขมากๆ ที่ได้ออกกำลัง หรือได้ทำงานที่ได้ใช้กำลังกาย  อย่างไรก็ตามไม่ควรปล่อยให้เขาวิ่งนำเจ้าของ เพราะจะทำให้เขาเข้าใจว่าตัวเองเป็นผู้นำ แล้วจะทำให้กลายเป็นปัญหาที่พวกเขาไม่ยอมเชื่อฟังและก้าวร้าว ควรให้เขาเดินข้างๆ หรือเดินตามหลังถึงจะดีที่สุด

ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     คอเคเซียน เชพเพิร์ดไม่เหมาะที่จะเลี้ยงในพื้นที่แคบโดยเฉพาะในอพาร์ตเม้นท์ แต่ควรเป็นบ้านที่มีบริเวณ หรือสนามหญ้ากว้างๆ เพื่อให้เขาได้เดินเล่นและได้ใช้พลังงานได้ แล้วขนที่ยาวของเขาก็มีไว้เพื่อปกป้องเขาจากอากาศหนาว และสภาพแวดล้อมต่างๆ อย่างไรก็ตามถ้าเลี้ยงในเมืองไทย ควรมีห้องที่ติดแอร์ให้เขาโดยเฉพาะ เนื่องจากขนที่หนามากไม่เหมาะกับสภาพอากาศร้อน  อาจทำให้เขารู้สึกไม่สบายตัว เกิดอากาศฮีสโตรกได้ง่าย และอาจทำให้อารมณ์เสีย เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว  ดังนั้นหากนำมาเลี้ยงตามบ้าน โดยเฉพาะในเมืองต้องฝึกวินัย สามารถควบคุมดูแลพวกเขาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากคอเคเซียน เชพเพิร์ด เป็นสุนัขที่ถ้าไม่ฝึกก็จะนิสัยเสีย ดุร้าย ดื้อ และไม่เชื่อฟังคำสั่งได้ง่าย


มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด   เพศผู้สูงโดยเฉลี่ย 28 - 30 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 50 กิโลกรัม
ส่วนเพศเมียส่วน    สูงจะอยู่ระหว่าง 26-28 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 45 กิโลกรัม

ศรีษะ ใหญ่ กว้าง หน้าผากแบน กระดูกแก้มหนาและกว้าง มีจุดหักบนใบหน้าเล็กน้อย

ฟัน ลักษณะฟันแบบขบกรรไกร

ปาก ริมฝีปากหนา กระชับ

ตา ตาเล็ก รูปไข่ นัยน์ตาลึก มีสีเข้ม

หู หูหนา ปกคลุมด้วยขน ตั้งสูง และพับลง ในประเทศต้นกำเนิดจะมีการตัดแต่งหูให้สั้น

จมูก สีดำสนิททั้งจมูก รูจมูกกว้าง

คอ คอสั้น เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ตั้งตรงอย่างพอเหมาะพอดี

อก อกลึก เนินอกขยายไปยังด้านหน้า และต่ำลงระหว่างขาหน้าทั้ง 2 ข้าง

ลำตัว  ร่างใหญ่ หนา แข็งแรง มีพละกำลัง ดูเทอะทะเล็กน้อย สะโพกยกขึ้นจากแผ่นหลังเล็กน้อย รูปร่างดูเทอะทะ ย้วยเล็กน้อย ลำตัวยาวกว่าขา หลังตรง แบน เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

เอว -

ขาหน้า ขาหน้ายาว ตรง กระดูกหนา ขนานกัน มีพละกำลัง เท้าใหญ่เป็นรูปทรงไข่ กลมรี

ขาหลัง  ขาหลังใหญ่ แข็งแรง มั่นคง เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ มองจากด้านหลังขนานกันทั้ง 2 ข้าง

หาง หางยาว ตั้งสูงม้วนขึ้นเป็นพวงไปยังด้านหลัง

ขน ขนหนา เส้นหยาบ เพื่อปกป้องอากาศหนาว

สีขน ขนมีสีเทามีแต้มสีขาว  


ข้อควรจำ

     ปกติแล้วคอเคเซียน เชพเพิร์ดเป็นสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน ไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ แต่ก็ควรระวังโรคกระดูกสะโพกเสื่อม โรคอ้วน และโรคหัวใจได้ ดังนั้นควรดูแล สังเกตอาการและพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ   






เยอรมันเชฟเฟิร์ด (German Shepherd)

เยอรมันเชฟเฟิร์ด (German Shepherd)
จงรักภักดี แข็งแกร่ง ไม่ก้าวร้าว


เยอรมันเชฟเฟิร์ด (ลักษณะทั่วไป

     สิ่งที่ประทับใจของผู้ที่ได้พบเห็นเยอรมันเช็พเพอดที่ดีคือ ความแข็งแรงว่องไว เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อตื่นตัวและมีชีวิตชีวา มองโดยรวมแล้วจะกลมกลืนและได้สัดส่วนกันระหว่างส่วนหน้าและส่วนท้าย ตัวจะยาวกว่าส่วนสูง ลำตัวลึก เส้นรอบตัวจะเป็นเส้นโค้งที่กลมกลืนแทนที่จะเป็นเหลี่ยมมุม มีขนาดค่อนข้างใหญ่และอ่อนแอ ให้ความรู้สึกไม่ว่าจะอยู่นิ่งหรือเคลื่อนไหวถึงความกระชับของกล้ามเนื้อและการเคลื่อนที่อย่างนุ่มนวล)
จงรักภักดี แข็งแกร่ง ไม่ก้าวร้าว


ความเป็นมา

     มีถิ่นกำเนิดในประเทศเยอรมนี มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "อัลเซเชี่ยน" ผู้คนนับพันนับหมื่นทีต้องอยู่ในโลกมืด ได้อาศัยเจ้าเยอรมันเช็พเพอดนี่แหละที่คอยเป็นพี่เลี้ยงนำทางไหนต่อไหนได้ พิทักษ์สันติราษฎร์ในเยอรมันนี แคนาดา ตามตรอกซอกซอยของบัลติมอร์ หรือในสวนสาธารณะของไฮด์ปาร์คที่มืดสลัว ไปด้วยม่านหมอกในใจกลางกรุงลอนดอน

     ย่อมรู้ดีว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมงานรักษากฎหมาย ที่ไม่ย่นระย่ออย่างใดทั้งสิ้น เขาทำหน้าที่เฝ้าเหมืองเพชรในคิมเบอร์ลี่ย์ก็ได้ เฝ้าโรงเรียนในนิวยอร์คก็ได้ หรือให้เฝ้าฐานทัพอากาศที่ทริโปลีก็ได้ ไม่มีใครสามารถคำนวณได้ว่าสุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอด ได้ช่วยชีวิตคนไว้เท่าไรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่สอง โดยที่การดมกลิ่นหาทหารบาดเจ็บบ้าง ถือสารและลำเลียงเวชภัณฑ์บ้าง คอยเตือนหน่วยลาดตระเวนในป่าต่อการถูกซุ่มโจมตีบ้าง ตลอดจนการตรวจรักษาแนวชายฝั่งทะเลเพื่อกันการก่อวินาศกรรม และค้นหาชาวบ้านที่ถูกซากปรักหักพังทับถมอยู่เนื่องจากการถูกระเบิดทางอากาศ ในยามไม่มีศึกสงคราม มันก็ทำงานเป็นการกุศล

     เนื่องจากจมูกที่ไวสามารถนำคนค้นหาพวกที่ถูกหิมะถล่ม ฝังเอาไว้ในเทือกเขาแอลป์ของสวิส ในปัจจุบันสุนัขพันธุ์นี้มีรูปร่างที่สวยงาม เฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง เป็นผลมาจากการผสมของสุนัขต้อนแกะหลายชนิดมานับศตวรรษ ซึ่งรวมเอาสุนัขที่มีขนาดย่อมแต่ว่องไวของท้องทุ่งเยอรมันภาคเหนือ กับสุนัขที่โตล่ำสันกว่าของภูมิภาคที่เป็นขุนเขาทางใต้เอาไว้ด้วย แม้จะสิ้นศตวรรษที่ 19 ยุคเลี้ยงแกะของเยอรมันได้สิ้นสุดลง แต่อย่างไรก็ตามนักเพาะพันธุ์สุนัขไม่กี่คนก็ยังพยายามสงวนพันธุ์อันมีคุณสมบัติอันวิเศษในการเลี้ยงแกะเอาไว้

     ซึ่งนับว่าควรแก่การยกย่องมากที่สุดได้แก่ ร้อยเอกทหารม้าผู้หนึ่งชื่อ มาร์กฟอนสเตฟานิตช์ ซึ่งได้ลงเรี่ยวลงแรงแข็งขัน เพื่อที่จะทำให้สุนัขพันธุ์นี้เข้ามาตรฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1889 และได้เจริญเติบโตเรื่อยมาจนมาเป็นสโมสรสุนัขที่ใหญ่ที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง โดยการเพาะพันธุ์สุนัขอย่างเดียว จากความพยายามของร้อยเอกฟอนสเตฟานนิตช์กับพรรคพวก ที่ได้พยายามเสาะหาสุนัขที่ใช้งานได้ดีและฉลาด และแล้วผลที่ได้ก็น่าภาคภูมิใจ ที่เมื่อมองสุนัขพันธุ์นี้ขณะที่มันปฏิบัติตามคำสั่งของนายโดยไม่ผิดพลาด


 ลักษณะนิสัย

     เยอรมันเช็พเพอดมีบุคลิกที่เด่นชัดคือ มีการแสดงออกถึงความไม่หวาดหวั่นแต่ก็ไม่ก้าวร้าว มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความกระตือรือร้นและตื่นตัวกระฉับกระเฉง เต็มใจจะรับใช้เต็มที่ในลักษณะของการเป็นเพื่อน เป็นสุนัขเฝ้าบ้านนำทางผู้ที่อยู่ในโลกมืด เป็นสุนัขต้อนฝูงสัตว์ หรือทำหน้าที่อารักขา สุนัขจะไม่ขี้ขลาดหรือหลบอยู่หลังผู้เป็นเจ้านาย ไม่ควรจะอ่อนไหว ไม่มองไปรอบๆ หรือแหงนหน้ามอง ไม่แสดงอาการตื่นตระหนก โดยจะหางตกเมื่อได้ยินเสียงหรือมองเห็นสิ่งแปลกๆ หากสันขมีอุปนิสัยดังกล่าวข้างต้นจะถูกตัดสินว่ามีความบกพร่องอย่างร้ายแรง สุนัขจะต้องยอมให้กรรมการตรวจฟันและลูกอัณฑะ ถ้าหากสุนัขกัดกรรมการจะต้องถูกไล่ออกจากสนามประกวด สุนัขที่อยู่ในอุดมคติควรที่จะสามารถใช้งานในลักษณะที่ไม่หยิบโหย่ง ผสมผสานกับลำตัวและการก้าวย่างที่เหมาะกับงานการที่ทำ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน


 การดูแล

     เยอรมัน เชพเพิร์ด ต้องการการดูแลเอาใส่ใจ เขาเป็นสุนัขที่ร่าเริง และต้องการสิ่งเร้าทางใจอยู่บ้าง ดังนั้นการพาเดินควบคู่กับการฝึกวินัยเป็นประจำ จะเพิ่มคุณภาพชีวิตของสุนัขได้ดี นอกจากนี้ควรพาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อเผาผลาญพลังงาน จะได้ไม่อ้วน และมีความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่ดุ หรือ ก้าวร้าว การทำความสะอาดสัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ แต่ควรแปรงขนเป็นประจำอย่างน้อย 2 วันต่อครั้ง

ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

     ผู้เหมาะสมที่จะเลี้ยง เยอรมัน เชพเพิร์ด คือคนที่สามารถสั่งและควบคุมสุนัขของเขาได้ และในทางกลับกันก็ต้องให้ความเคารพในตัวสุนัขด้วย คนเหล่านี้ควรจะร่าเริง และมีความสุขกับสุนัขของเขาโดยปราศจากอาการหัวเสียหรือคาดหวังให้เป็นสุนัขขี้อ้อน


มาตรฐานสายพันธุ์

ขนาด สุนัขพันธุ์เยอรมันเช็พเพอดที่นิยมกัน จะอยู่ในสัดส่วนของความยาวต่อความสูงอยู่ระหว่าง 10 ต่อ 8.5 ความสูงของสุนัขเพศผู้วัดจากจุดสูงสุดของไหล่อยู่ระหว่าง 24-25 นิ้ว ส่วนเพศเมีย 22-24 นิ้ว ความยาววัดจากกระดูกอกไปยังตอนท้ายของกระดูกสะโพก

ศรีษะ แข็งแรงได้สัดส่วนกับลำตัว ศีรษะของเพศผู้แลดูล่ำสัน ส่วนเพศเมียก็อ่อนช้อย ปากยาวและแข็งแรง มองจากด้านหน้าหน้าผากจะโค้งเล็กน้อย กะโหลกศีรษะลาดเทยาวเป็นรูปลิ่ม ดั้งจมูกจะไม่หักมาก กรามแข็งแรง

ฟัน 42 ซี่ ข้างบน 20 ซี่ ข้างล่าง 22 ซี่ แข็งแรงและสบกันแบบกรรไกร ฟันข้างบนยื่นไปข้างหน้าหรือการสบแบบเสมอเป็นลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ ฟันล่างที่ยื่นไปข้างหน้าเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรง ถ้าหากฟันซี่อื่นที่นอกเหนือไปจากฟันกรามเล็กก็ถือเป็นข้อบกพร่องร้ายแรงเช่นกัน

ปาก กระบอกปากยาว ริมฝีสีดำกระชับ

ตา ขนาดปานกลาง รูปร่างเหมือนเมล็ดอัลมอนด์ ตั้งแบบเฉียงเล็กน้อยแต่ไม่โปนออกมา ตาควรจะดำมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ มีแววตาที่ฉลาดและเฉียบแหลม

หู แหลมพอประมาณได้สัดส่วนกับกะโหลกศีรษะและเปิดไปข้างหน้า และจะตั้งชันเมื่อตั้ง
อกตั้งใจ หูที่อยู่ในอุดมคติเส้นกลางของใบหูเมื่อมองจากด้านหน้า จะขนานกันและจะตั้งฉากกับพื้น หูที่ถูกตัดหรือห้อยจะต้องถูกคัดออกจากสนามประกวด

จมูก จมูกดำเป็นมัน

คอ แข็งแรงและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ค่อนข้างยาวได้สัดส่วนกับศีรษะ หนังไม่หย่อนยาน เมื่อสุนัขตั้งใจหรือตื่นเต้นศีรษะจะชูสูง คอจะยืดออก โดยทั่วไปศีรษะจะยื่นไปข้างหน้ามากกว่าชูสูง แต่จะสูงกว่าไหล่เล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเคลื่อนไหว

อก ลึก กว้าง แข็งแรง เมื่อเคลื่อนตัวจะยิ่งดูแข็งแกร่ง แต่ไม่เทอะทะใหญ่จนเกินไป

ลำตัว โครงสร้างโดยรวมทำให้เกิดความรู้สึกถึงความลึกและแน่น แต่ไม่เทอะทะ อกควรจะเต็มและลงลึกอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้าง อกกว้างมีเนื้อที่มากพอสำหรับหัวใจและปอดซี่โครงยาวและโค้งไม่เป็นรูปถังเบียร์หรือแบนมากเกินไป และไปจรดส่วนอกลงไปถึงข้อศอก หากซี่โครงอยู่ในลักษณะที่ถูกต้องจะทำให้ศอกหดกลับอย่างอิสระ ในขณะที่สุนัขกำลังวิ่งเหยาะๆ หากกระดูกซี่โครงโค้งออกมามากเกินไปจะทำให้ข้อศอกกางออก

เอว -

ขาหน้า จากไหล่ลงมาท่อนขาตรง กระดูแข็งแรง เป็นลักษณะวงรี ไม่ใช่วงกลม กระดูขาจะแบนเล็กน้อย 

ขาหลัง ขาท่อนบนช่วงสะโพกหน้ากว้าง ลาดโค้งลงต่ำ เอนไปทางด้านหลัง ท่อนขาล่างกับบนทำมุม 120 องศา ขาท่อนล่างตรง มองจากด้านหลังจะเห็นขาท่อนล่างขนานกัน

หาง เป็นพวงข้อกระดูกสันหลัวข้อสุดท้ายอย่างน้อยจะยื่นไปต่อกระดูกขาหลัง หางตั้งอยู่ตรงตะโพกและห้อยลงขณะที่อยู่ในท่าพัก หางจะโค้งเล็กน้อย เมื่อสุนัขตื่นเต้นหรือกำลังเคลื่อนไหวหางจะโค้งและยกขึ้น แต่ไม่ควรโค้งไปข้างหน้าและเลยเส้นตั้งฉาก หางที่สั้นเกินเป็นข้อบกพร่องอย่างมาก หากหางถูกตัดจะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ประกวด

ขน ควรมีขนสองชั้นและยาวปานกลาง ขนชั้นนอกควรจะแน่นมากที่สุดเท่าที่จะแน่นได้ ขนเหยียดตรง หยาบแนบไปกับลำตัว ขนชั้นนอกเป็นลอนเล็กน้อย ศีรษะรวมทั้งข้างในหู หน้าผาก ขาและเท้าจะปกคลุมด้วยขนสั้น ส่วนคอจะปกคลุมด้วยขนที่หนาและยาวกว่า ด้านหน้าของขาหน้าและขาหลังจะมีขนยาว และยื่นไปปกคลุมข้อเท้าและข้อขาหลังตามลำดับ ขนที่นิ่มและคล้ายไหม, ขนชั้นนอกยาวเกินไป, ขนเหมือนขนสัตว์และหยิกเป็นลอนเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์

สีขน ไม่มีสีที่แน่นอน แต่จะนิยมสีเข้มมากกว่า หากจมูกสีอ่อน สีฟ้าหรือเป็นสีตับเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรง หากขนสีขาวหรือมีจมูกไม่ดำจะถูกห้ามไม่ให้ลงประกวด


ข้อควรจำ

     การเลือกซื้อ เยอรมัน เชพเพิร์ด ให้ดี ควรแน่ใจว่า ทั้งประวัติพ่อพันธุ์และประวัติแม่พันธุ์ของลูกสุนัขตัวนั้นผ่านการตรวจโรคข้อสะโพกอักเสบแล้ว สภา เยอรมัน เชพเพิร์ด ของออสเตรเลีย ยังมีหลักสูตรการปรับปรุงพันธุ์ที่จะช่วยกรองสุนัขเพศผู้ ที่เป็นโรคโลหิตจางและโรคข้อศอกอักเสบอีกด้วย